‘ลินจง โอภากุล’ แท้จริงเป็นเศรษฐีนีอยู่กลางป่า..!!!

‘ลินจง โอภากุล’ แท้จริงเป็นเศรษฐีนีอยู่กลางป่า..!!!

 ลินจง โอภากุล’ แท้จริงเป็นเศรษฐีนีอยู่กลางป่า!

หลายคนคงจะรู้จักนักร้องเพลงเพื่อชีวิตอย่าง “แอ๊ด คาราบาว” ศิลปินที่มีชื่อเสียงมากเลยทีเดียวในวงการเพลงบ้านเรา และยังเป็นหุ้นส่วนคนสำคัญของธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังและเป็นตัวอย่างของนักลงทุน

จนนิตยสารมหาเศรษฐีชื่อดังอย่าง Forbes จับ “แอ๊ด คาราบาว” ขึ้นปก ชูเป็นศิลปินนักร้องที่ร่ำรวยที่สุดของไทย จากคนจนผู้ยิ่งใหญ่ สู่อาณาจักรคาราบาวแดงหมื่นล้าน
ซึ่งดูแล้วชีวิตมีแต่การทำงาน และเชื่อว่าน้อยคนที่จะเคยได้เห็นภรรยาของน้าแอ๊ด “ลินจง โอภากุล” ภรรยาสุดสวยของน้าแอ๊ด อย่างแน่นอน และวันนี้ก็นำเอาภาพภรรยาและครอบครัวน้าแอ๊ด
จากคนจนผู้ยิ่งใหญ่ สู่อาณาจักรคาราบาวแดงหมื่นล้าน ซึ่งดูแล้วชีวิตมีแต่การทำงาน และเชื่อว่าน้อยคนที่จะเคยได้เห็นภรรยาของน้าแอ๊ด “ลินจง โอภากุล” ภรรยาสุดสวยของน้าแอ๊ดอย่างแน่นอน

ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 3 คน เป็นหญิง 2 คน คือลูกสาวคนโต “ณิชา โอภากุล” และลูกสาวคนเล็ก “นัชชา โอภากุล” และชาย 1 คน คือ “ร.ต.ท.วรมันต์ โอภากุล”

สำหรับน้าแอ๊ด นั้นเกิดเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2497 โดยพื้นเพคนตำบลท่าพี่เลี้ยง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นบุตรชายฝาแฝดคนเล็ก ครอบครัวมีอาชีพค้าขายของ

ที่ตลาดเมืองสุพรรณบุรี เริ่มต้นการศึกษาในระดับประถมศึกษาโรงเรียนวัดสุวรรณภูมิ ระดับมัธยมที่ โรงเรียนกรรณสูตศึกษาลัย
จากนั้นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญก็เกิดขึ้น แอ๊ดตัดสินใจบินเดี่ยวมาพร้อมกับรถส่งไปรษณีย์เพื่อเข้ามาศึกษาต่อระดับ อุดมศึกษาที่อุเทนถวาย
และบินไปเรียนต่อระดับปริญญาที่ ประเทศฟิลิปปินส์ สมัยเรียนร่วมก่อตั้งวงคาราบาวกับกิรติ พรหมสาขา ณ สกลนคร หรือ เขียวคาราบาวเพื่อนสมัยเรียนที่ฟิลิปปินส์
หลังจากจบการศึกษาแล้ว ได้บินกลับมาเมืองไทยเข้าทำงานในตำแหน่งสถาปนิกที่การเคหะแห่งชาติ เป็นเวลา 5 ปีและมีเล่นดนตรีตอนกลางคืนไปด้วย
จากนั้นได้มีโอกาสเข้าไปเป็นโปรดิวเซอร์ให้วงแฮมเมอร์ที่ทำเพลง ประกอบภาพยนตร์เรื่องหมามุ่ยของ พนม นพพร ในสมัยนั้น จากการทำงานดังกล่าวจึงเกิดแรงบันดาลใจในการทำอัลบั้มชุดแรกขึ้นมาในนามวงคาราบาว
ทุกวันนี้แม้จะเป็นมหาเศรษฐีแล้วแต่ก็ยังเดินทางเล่นคอนเสิร์ต สิ่งที่ทำให้ยังเล่นอยู่ทุกวันนี้คืออะไร? เพราะว่าเรายังมีธุรกิจ ของเหล่านี้วันนึงข้างหน้ามันต้องใช้พ่ออยู่แล้ว
เพราะฉะนั้นเราก็ยังต้องเดินต่อไป สอง ดนตรีมันเป็นชีวิตของพ่อก่อนที่จะมาทำธุรกิจซึ่งประสบความสำเร็จ แต่พ่อก็ทิ้งไม่ได้เพราะเพื่อนในวงยังเป็นคาราบาวและยังต้องหากินอยู่ 3
พ่อก็ต้องดูแลเขาแล้วก็ต้องเล่นไปกับเขา สาม ที่สำคัญที่สุดคือพ่อชอบชีวิตแบบนี้ ผมไม่ถนัดเรื่องกิจการาผมนับตังค์

ไม่เป็นผมยังไม่รู้เลยว่าตังค์ผมมีเท่าไหร่ ไม่รู้เลยว่าผมมีบัญชีมีอะไรก็ให้เมียดูแล ใช้เงินก็ไม่เป็นด้วยรถที่ซื้อมาก็มือสองทั้งนั้นไม่เคยซื้อใหม่หรอก“

Post a Comment

ใหม่กว่า เก่ากว่า

Sponsored

sponsored