เตือน “อภิมหาแผ่นดินไหว” จาก “ร่องลึกนันไค” ญี่ปุ่น กำลังใกล้เข้ามา คาดเสียหายมหาศาล

รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานใหม่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า หากเกิดแผ่นดินไหวขนาดประมาณแมกนิจูด 9 บริเวณร่องลึกนันไค (Nankai Trough) ซึ่งอยู่ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของประเทศ อาจมีผู้เสียชีวิตสูงถึง 298,000 คน โดยส่วนใหญ่เกิดจาก สึนามิและอาคารถล่ม

ก่อนหน้านี้ ในการประเมินปี 2012 และ 2013 รัฐบาลคาดการณ์ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจะอยู่ที่ ประมาณ 323,000 คน แต่ตัวเลขล่าสุดลดลง เนื่องจากจำนวนอาคารที่ทนแผ่นดินไหวได้เพิ่มขึ้น รวมถึงการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการอพยพจากสึนามิ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลภูมิประเทศและชั้นดินล่าสุดกลับชี้ว่าพื้นที่น้ำท่วมจะขยายวงกว้างมากขึ้น

แผ่นดินไหวจากร่องลึกนันไคนี้คาดว่าจะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจสูงถึง 292.2 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการประเมินครั้งก่อน (237.2 ล้านล้านเยน) เนื่องจากราคาสินค้าและบริการที่สูงขึ้น

แรงสั่นสะเทือนระดับ 7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของมาตรวัดญี่ปุ่น คาดว่าจะเกิดขึ้นใน 149 เทศบาลทั่ว10 จังหวัด จากทั้งหมด 47 จังหวัดของญี่ปุ่น
สึนามิอาจสูงเกิน 20 เมตร มีแนวโน้มที่จะถูกบันทึกใน 23 เทศบาลในโตเกียวและอีก 7 จังหวัด โดยเฉพาะเมืองโทซาชิมิซุ (Tosashimizu) และเมืองคุโรชิโอะ (Kuroshio) ในจังหวัดโคจิ ที่อาจเผชิญคลื่นสูงสุดถึง 34 เมตร ส่วนจังหวัดชิซูโอกะ มิเอะ วาคายามะ โทคุชิมะ และโคจิ อาจเผชิญสึนามิสูง 1 เมตรภายในเวลาเพียง 5 นาทีหลังเกิดแผ่นดินไหว

สถานการณ์เลวร้ายที่สุด คือเกิดแผ่นดินไหวในคืนฤดูหนาวช่วงลมแรง (8 เมตรต่อวินาที) ขณะที่ประชาชนไม่พร้อมอพยพ ส่งผลให้ผู้เสียชีวิตจากสึนามิอาจสูงถึง 215,000 คน จากอาคารถล่ม 73,000 คน และจากไฟไหม้ 8,700 คน ส่วนผู้เสียชีวิตทางอ้อม เช่น จากสภาพแวดล้อมหรือบริการทางการแพทย์ที่ล่าช้า ถูกประเมินไว้ที่ ระหว่าง 26,000 – 52,000 คน โดยอ้างอิงจากประสบการณ์แผ่นดินไหวใหญ่เมื่อปี 2011 (โทโฮคุ) และแผ่นดินไหวที่คาบสมุทรโนโตเมื่อปีที่ผ่านมา

คาดว่าจะมีอาคาร ถึง 2.35 ล้านหลัง ได้รับความเสียหายจากไฟไหม้
ความเสียหายจากโครงสร้างพื้นฐาน เช่น อาคาร ระบบประปา ท่อระบายน้ำ ถนน และการคมนาคมอื่น ๆ คิดเป็นมูลค่า 224.9 ล้านล้านเยน ขณะที่การลดลงของกิจกรรมการผลิตคิดเป็น 45.4 ล้านล้านเยน และค่าฟื้นฟูโครงสร้างถนน ระบบราง และท่าเรือ คาดว่าจะอยู่ที่ 21.9 ล้านล้านเยน

รายงานประเมินเพิ่มเติมจากสำนักคณะรัฐมนตรีชี้ว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้จะทำให้ GDP ของประเทศลดลง 8.3% หรือราว 45.4 ล้านล้านเยน ภายในหนึ่งปีหลังเกิดเหตุ ทั้งนี้ ภาคอุตสาหกรรมรถยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีฐานการผลิตสำคัญในพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบ จะเผชิญความเสียหายรุนแรง รวมถึงระบบขนส่งหลักอย่างทางรถไฟและท่าเรือที่อาจหยุดชะงัก ส่งผลให้ห่วงโซ่อุปทานสะดุดและราคาสินค้าเพิ่มขึ้น

รัฐบาลญี่ปุ่นเตือนว่า ความสามารถในการแข่งขันในระดับนานาชาติของญี่ปุ่น “อาจลดลงอย่างไม่อาจกู้คืนได้” หากบริษัทที่มีฐานะทางการเงินอ่อนแอล้มละลาย และห่วงโซ่อุปทานถูกย้ายไปต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลญี่ปุ่นยังไม่สามารถคาดการณ์วันเวลาที่แน่ชัดของการเกิดแผ่นดินไหวบริเวณร่องลึกนันไค (Nankai Trough) แต่การศึกษานี้เป็นการจำลองสถานการณ์เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต เพื่อเตรียมการรับมืออย่างเป็นระบบ นักวิทยาศาสตร์ชี้ว่า ร่องลึกนันไคมีแนวโน้มเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทุก 100-150 ปี ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อปี 1946 (แผ่นดินไหวนันไค ขนาด 8.1) ซึ่งหมายความว่า ญี่ปุ่นกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในทศวรรษหน้า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง